วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6


คำถามทบทวน

1. จงอธิบายเป้าหมายทางการผลิตทั้งในส่วนของธุรกิจและองค์การคู่ค้า
ตอบ     เป้าหมายของผู้ผลิต คือ การผลิตสินค้าและบริการให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการผลิตสินค้าและตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
เป้าหมายองค์การคู่ค้า คือ การซื้อสินค้าจากผู้ผลิตในอัตราที่มีปริมาณมากและราคาถูกเพื่อที่จะนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค

2. จงยกตัวอย่างการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้กับงานด้านการผลิต
ตอบ การนำอินเทอร์เน็ตมาใช้กับงานด้านการผลิต เช่น
1            1. ระบบการจัดการวงจรีชีวิตผลิตภัณฑ์
2            2. ระบบจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์
3            3. ระบบสารสนเทศด้านควบคุมคุณภาพบนเว็บ
4           4. ระบบสารสนเทศด้านการบริหารโครงการบนเว็บ
              5. ระบบสารสนเทศด้านจัดตารางการทำงานของลูกจ้างบนเว็บ
              6. ระบบสารสนเทศด้านจัดการโกดังสินค้าบนเว็บ

3. การดำเนินธุรกิจผลิตสินค้าและธุรกิจบริการมีการจัดการผลิตต่างกันอย่างไร
ตอบ มีการจัดการที่ต่างกัน ดังนี้ ธุรกิจผลิตสินค้า คือ ธุรกิจที่มีการนำวัตถุดิบที่ยังไม่ผ่านการแปรสภาพนำมาผลิตเป็นสินค้า ต่างจากธุรกิจบริการ คือ การนำสินค้าที่ได้จากฝ่ายผลิตสินค้านำมาบริหารจัดการทางด้านการตลาดเพื่อให้มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น

4. ธุรกิจมีการใช้ระบบสารสนเทศด้านการวางแผนการผลิตอย่างไร
ตอบ      1. การวางแผนการผลิตรวม
                2. การจัดตารางการผลิต
                3. การวางแผนความต้องการวัสดุ
                4. การวางแผนทรัพยากรการผลิต
               
5. ระบบสารสนเทศทางการผลิตมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันในแต่ละระบบย่อยอย่างไร
ตอบมีกระบวนการผลิตที่เป็นระบบซึ่งในแต่ละระบบจะทำหน้าที่ของใครของมันโดยการไล่ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่อยู่ล่างสุดไล่มาจนถึงบนสุด แล้วจำแนกเป็นระบบย่อยที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประมวลผลสารสนเทศทางการผลิตทั้ง 5 ระบบ  คือส่วนของการออกแบบ การวางแผน การจัดการ การดำเนินการ และการควบคุมการผลิต

6. เพราะเหตุใดจะต้องมีการออกแบบกระบวนการผลิตที่สอดคล้องกับคำสั่งซื้อของลูกค้า
ตอบ เนื่องจากเป็นการผลิตแบบเป็นล็อตหรือผลิตในปริมาณน้อยซึ่งให้ตรงกับออเดอร์ ที่ลูกค้าสั่ง อีกทั้งการผลิตแบบนี้สามารถทำการได้เปรียบทางการแข่งขันจากคู่แข่งขันได้

7. การจัดการโลจิสติกส์ทางการผลิตมุ่งเน้นถึงการจัดการงานส่วนใดบ้าง
ตอบ มุ่งเน้นถึงการผลิตตามกระบวนการผลิตและตามแผนในส่วนต่างๆ ที่วางไว้ซึ่งกระบวนการผลิตแต่ละธุรกิจอาจแตกต่างกันไป ดังนั้น จึงไม่สามารถกำหนดขั้นตอนที่แน่นอนของระบบการดำเนินการผลิตได้

8. ปัจจุบันการจัดการโซ่อุปทาน  ถูกนำมาทดแทนการจัดการโลจิสติกส์ได้หรือไม่
ตอบ ปัจจุบันการจัดการโซ่อุปทานสามารถทดแทนการจัดการโลจิสติกส์ได้ เนื่องจากการจัดการโลจิสติกส์ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการโซ่อุปทาน ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้สามารถนำมาใช้แทนกันได้ คือ สามารถเลือกใช้ระบบใดระบบหนึ่งได้หรือจะนำทั้งสองระบบมาประยุกต์ใช้รวมกันก็ ได้

9. จงยกตัวอย่างการใช้สารสนเทศจากภายนอกองค์การ
ตอบ      1.สารสนเทศด้านผู้ขายวัสดุ คือ สารสนเทศที่ได้จากผู้ขายวัสดุ ภายในเครือข่ายด้านโซ่อุปทานขององค์การ
2. สารสนเทศด้านผู้ขนส่งวัสดุ คือ สารสนเทศที่ได้จากผู้ให้รบริการขนส่งวัสดุ เช่น  ตารางการขนส่ง ระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่งและต้นทุนการขส่ง เป็นต้น

10. จงยกตัวอย่างธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีทางการผลิตที่ท่านพบเห็นในประเทศไทย
ตอบ  ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีทางการผลิตในประเทศไทย มีดังนี้
1.             บริษัท Canon จำกัด
2.             บริษัท สำนักพิมพ์แม็ค จำกัด
3.             บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
4.             บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด(มหาชน)
5.             บริษัท สตาร์สไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 
6.             อื่น ๆ  เป็นต้น

สรุปบทที่ 6


ระบบสารสนเทศทางการผลิต

           ระบบสารสนเทศทางการผลิต หมายถึง ระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้สนับสนุนหน้าที่งานด้านการผลิตและการดำเนินงาน ตลอดจนกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับการวางแผน การควบคุมกระบวนการผลิตและการจัดระบบการผลิตของธุรกิจ โดยจำเป็นจะต้องมีการประมวลผลธุรกรรมด้านการผลิตและการดำเนินงาน

การจัดการผลิตและดำเนินงาน
การผลิตและการดำเนินงาน คือ กิจกรรมหลักกิจกรรมหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้โซ่คุณค่าขององค์การซึ่งถือเป็น กระบวนการสร้างมูลค่าให้กับการแปรรูปปัจจัยการผลิตให้เป็นผลิตภัณฑ์อันทรง คุณค่า ส่งตรงถึงมือลูกค้าหรือผู้บริโภค และมีส่วนผลักดันให้การดำเนินงานด้านการตลาดเป็นไปอย่างราบรื่น
1. แนวคิดและความหมาย
กระบวนการผลิต เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตและดำเนินงานเพราะปัจจัยการผลิต คือ สิ่งรับเข้า กระบวนการผลิต คือ การประมวลผล และผลิตภัณฑ์ คือ สิ่งส่งออก ซึ่งสื่อถึงความหมายของระบบการผลิตนั่นเอง หากปัจจัยการผลิตของธุรกิจประกอบด้วย ทรัพยากรมนุษย์ทางด้านแรงงานและด้านบริหาร สินทรัพย์ประเภททุน ก็ยังมีสิ่งนำเข้ากระบวนการผลิตอื่นที่อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมของธุรกิจ คือ ความคิดเห็นของลูกค้าภายในละภายนอกองค์การตลอดจนสารสนเทศด้านผลการประกอบการขององค์การ
2. วิวัฒนาการการผลิต
ใน ระยะเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมธุรกิจส่วนใหญ่ดำเนินการผลิต บนพื้นฐานการผลิตเก็บเป็นสินค้าคงคลัง เน้นด้านการผลิตสินค้าปริมาณมากและขายสินค้าผ่านเครือข่ายของช่องทางการตลาด หลากหลายรูปแบบ เวลาต่อมาจึงได้เปลี่ยนวิธีการผลิตโดยการนำแนวคิดของระบบการผลิตแบบทันเวลา พอดีมาใช้และใช้วิธีการผลิตตามคำสั่งหรือวิธีการประกอบสินค้าตามคำสั่ง มาแทนที่การผลิตเก็บเป็นสินค้าคงคลัง
3. กลยุทธ์การผลิตและการดำเนินงาน
จะเน้นถึงความต้องการของลูกค้าที่สะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายระยะยาวขององค์การ อาศัยความร่วมมือจากแผนกการตลาดและการผลิตที่จะทำการค้นหาความต้องการของลูกค้าละนำมากำหนดเป็นความได้เปรียบทางการผลิต การผลิตตามความต้องการของลูกค้าและปริมาณการผลิตมีความยืดหยุ่น ซึ่งริทซ์แมนและกาจิวสกีจำแนกกลยุทธ์การผลิตเป็น 3 กลยุทธ์ ดังนี้
1.การเก็บเป็นสินค้าคงคลัง ธุรกิจมักจะมีการผลิตสินค้าเพื่อเก็บเป็นสินค้าคงคลังที่พร้อมส่งมอบแก่ลูกค้าทันที เหมาะกับการผลิตสินค้ามาตรฐานที่มีการผลิตในปริมาณมาก
              2.การผลิตตามคำสั่ง เป็นการผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้าโดยผลิตเป็นล็อต ในปริมาณน้อยการออกแบบกระบวนการผลิตแต่ละครั้งจะขึ้นกับความต้องการของลูกค้า
              3.การประกอบสินค้าตามคำสั่ง เป็นการประกอบชิ้นส่วนมาตรฐานตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ในคำสั่งซื้อของลูกค้า และนำมาซึ่งความได้เปรียบทางการแข่งขัน
4. หน้าที่ทางการผลิตและดำเนินงาน
นับเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆที่ก่อเกิดผลผลิตในรูปแบบของสินค้าหรือบริการ และจัดแบ่งหน้าที่เป็น 2 ด้าน คือ หน้าที่ด้านการผลิต เน้นความพึงพอใจของลูกค้าหรือบริการของธุรกิจเป็นหลัก โดยจัดแบ่งหน้าที่การผลิตดังนี้ 
1.การวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยหาคำตอบว่าจะผลิตอะไร จำนวนเท่าใด ผลิตอย่างไร เกิดความต้องการผลิตสินค้าและบริการเมื่อใด 
2.การออกแบบกระบวนการผลิต เพื่อได้กระบวนการผลิตที่เหมาะสมกับความต้องการผลิตภัณฑ์ของลูกค้าและมีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสม 
3.การวางแผนทำเลที่ตั้งโรงงาน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการผลิตในส่วนลดต้นทุนการขนส่ง และรักษาคุณภาพของวัสดุระหว่างการขนส่ง
4.การวางแผนการผลิตและดำเนินงาน โดยทำการวางแผนกำลังการผลิต การจัดสรรทรัพยากรการผลิตและการจัดตารางการผลิต เพื่อระบุวันเริ่มผลิตและส่งมอบสินค้า
5.การจัดการวัสดุและสินค้าคงเหลือ โดยเลือกใช้ระบบการจัดการวัสดุและสินค้าคงเหลือที่ดี มีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการจัดการงานระหว่างทำ ซึ่งก็คือสินค้าที่ยังผลิตไม่เสร็จและจะต้องทำการผลิตต่อ โดยโดยเลือกใช้เทคโนโลยีในช่วยในการจัดการ
6.การควบคุมคุณภาพสินค้า โดยทำการควบคุมและรักษาระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้
7.การลดต้นทุนการผลิต โดยทำการค้นหาวิธี หรือแนวคิดใดๆซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายของการลดต้นทุนการผลิตสินค้าหรือบริการ
8.การขจัดความสูญเปล่า เป็นแนวคิดหนึ่งของระบบการผลิตสมัยใหม่ที่นำมาใช้อย่างได้ผลในปัจจุบัน โดยจะต้องออกแบบและดำเนินการตามมาตรการที่ลดความสูญเปล่าในโรงงาน
9.ความปลอดภัยในโรงงาน โยสร้างระบบรักษาความปลอดภัยในโรงงานซึ่งสามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในโรงงาน เช่น ISO 14000
10.การเพิ่มผลผลิตทางการผลิต โดยการแสวงหาวิธีการเพิ่มผลผลิตในโรงงาน รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์อีกด้วย ซึ่งอาจใช้วิธีขจัดความสูญเปล่าเข้าช่วย
11.การบำรุงรักษา โดยมีการบำรุงรักษาระบบการแปรรูปผลผลิตให้คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ การดำเนินงานและความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง โดยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างดำเนินการผลิตหรือให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนค่าเสียโอกาส 
12.การประสานงานกับหน่วยงานอื่น คือ หน้าที่ของฝ่ายผลิตที่จะต้องประสานงานกับฝ่ายตลาด ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน ตลอดจนผู้ขายวัตถุดิบ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ
5.การจัดการโซ่อุปทานและโลจิสติกส์
การจัดการโซ่อุปทาน หมายถึง การกำหนดกระบวนการบูรณาการด้านการวางแผน การจัดหา การผลิต การจัดส่ง และการค้นคืนสินค้า โดยเริ่มตั้งแต่ผู้ขายทุกระดับจนถึงผู้ซื้อทุกระดับ
         การจัดการโลจิสติกส์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการโซ่อุปทาน คือ การวางแผน การปฏิบัติการและการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นถึงประสิทธิผลของการไหลของสินค้า การจัดเก็บสินค้า การบริการและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องตั้งแต่จุดกำเนิดจนถึงจุดบริโภค เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า 
           ความแตกต่างของการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน คือ ในส่วนของขอบเขตการดำเนินงาน การจัดการโลจิสติกส์จะครอบคลุมเฉพาะภายในองค์การ แต่การจัดการโซ่อุปทานจะเป็นการบูรณาการงานที่เกี่ยวข้องด้านโลจิสติกส์ทั้งภายในและภายนอกองค์การเข้าด้วยกัน
6. ระบบการผลิตยุคใหม่
ปัจจุบันมี 2ระบบ คือ
          1. ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี คือ แนวคิดทางการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการผลิตแบบโตโยต้า ซึ่งยึดหลักการสำคัญ คือ ผลิตในจำนวนเท่าที่ต้องการในเวลาที่ต้องการและมีการควบคุมสินค้าคงเหลือให้เหลือน้อยที่สุด โครงสร้างของระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี มีดังนี้
            1.1 กรรมวิธีการผลิต 3 ประการ คือ
               1. การ ปรับเรียบการผลิต หมายถึง ทำการผลิตเป็นล็อตเล็กๆ เพื่อสามารถตรวจสอบข้อบกพร่องและคุณภาพของผลผลิตได้ง่ายขึ้นสามารถตัง เครื่องจักรได้อย่างรวดเร็วในการเปลี่ยนรุ่นและแบบของผลิตภัณฑ์ในแต่ละครั้ง
               2. การออกแบบวิธีการและเครื่องมือการผลิต ให้พนักงานคนหนึ่งสามารถทำได้ลายหน้าที่
               3. สร้างมาตรฐานของงานและควบคุมให้เสร็จตามเวลามาตรฐาน ณ รอบการผลิต
            1.2 ระบบข้อมูลผลิต มีการนำแผ่นป้ายกันบังมาใช้สำหรับการสื่อสารการผลิต ระหว่างหน้าที่งานภายในโรงงาน
         2. ระบบการผลิตแบบลีน เป็นระบบการผลิตที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าทำเกิดมาตรฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง และมุ่งขจัดความสูญเปล่าอันสืบเนื่องมาจากทั้งด้านคุณภาพ ราคา การจัดส่งสินค้าและบริการแก่ลูกค้า หลักการของระบบลีนมี 5 ข้อ ดังนี้
          2.1 การระบุคุณค่าของสินค้าและบริการ โดยมีการชี้ให้เห็นถึงคุณค่าของสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยอาจจะใช้วิธีการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ของธุรกิจกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง
              2.2 การแสดงสายธารคุณค่า โดยมีการจัดทำผังแห่งคุณค่า ซึ่งจะระบุถึงกิจกรรมที่ต้องกระทำทั้งหมด ตั้งแต่รับวัสดุเข้าโรงงาน จนกระทั่งมีการส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้า
           2.3 การทำให้เกดการไหลของคุณค่าอย่างต่อเนื่อง คือ การมุ่งเน้นที่จะทำให้สายการผลิตสามารถปฏิบัติงานได้อย่างสม่ำเสมอตลอดเวลาโดยปราศจากอุปสรรคขัดขวาง โดยใช้หลักการไหลของงานอย่างต่อเนื่อง
          2.4 การให้ลูกค้าเป็นผู้ดึงคุณค่าจากกระบวนการ คือ จะทำการผลิตก็ต่อเมื่อลูกค้าเกิดความต้องการสินค้านั้น และผลิตในปริมาณเท่าที่ลูกค้าต้องการ จึงมีความสอดคล้องกับระบบการผลิตตามสั่ง
            2.5 การสร้างคุณค่าและขจัดความสูญเปล่าอย่างต่อเนื่อง เป็นความพยายามของหน่วยผลิต ที่มุ่งมั่นด้านการเพิ่มคุณค่าให้สินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการค้นพบความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นระหว่างผลิตและกำจัดความสูญเปล่านั้นให้มดสิ้นไป

สารสนเทศทางการผลิต
          สารสนเทศทางการผลิต คือ สารสนเทศที่ได้รับจากการประมวลผลของระบบสารสนเทศทางการผลิต ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลและสารสนเทศทั้งจากภายในและภายนอกองค์การ
1.การจำแนกประเภท
สารสนเทศสามารถจำแนกประเภทได้ 3 ประเภท ดังนี้
          1. สารสนเทศเชิงปฏิบัติการ คือ สารสนเทศที่ได้รับจากการดำเนินงานการผลิตในส่วนต่างๆ ดังนี้
                          1.1สารสนเทศด้านการดำเนินการผลิต ครอบคลุมถึงสารสนเทศด้านการปฏิบัติการผลิตประจำวัน ต้นทุนการผลิต สินค้าสำเร็จรูป และงานระหว่างทำ
                           1.2สารสนเทศด้านควบคุมคุณภาพ คือ สารสนเทศที่ระบุถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการผลิต ซึ่งจำเป็นจะต้องสร้างผลผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
                       1.3สารสนเทศด้านการแก้ปัญหา คือ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงการผลิต ซึ่ง อาจจะต้องใช้เวลาและต้นทุนการค้นพบที่มีมูลค่าสูง รวมทั้งมีการใช้อุปกรณ์พิเศษ
          2. สารสนเทศเชิงบริหาร คือ สารสนเทศที่ใช้สนับสนุนงานการวางแผนและจัดการผลิต ดังนี้
                         2.1สารสนเทศด้านออกแบบการผลิต คือ สารสนเทศที่ได้จากการปฏิบัติการด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบกระบวนการผลิต และระบบการผลิตตาความต้องการของลูกค้า ตลอดจนการออกแบบผังโรงงาน เพื่อดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่นตามเป้าหมายที่วางไว้
                        2.2สารสนเทศด้านวางแผนการผลิต คือ สารสนเทศที่ได้จากการวางแผนการผลิตด้านต่างๆ
                   2.3สารสนเทศด้านการจัดการโลจิสติกส์ คือ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการจัดหาและการขนส่งวัสดุเข้าโรงงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิต ตลอดจนการจัดเก็บและควบคุมสินค้าคงเหลือ
                2.4สารสนเทศด้านควบคุมการผลิต คือ สารสนเทศที่ใช้สนับสนุนงานด้านการควบคุมกระบวนการผลิต การควบคุมต้นทุนการผลิต รวมทั้งด้านการบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
  3.สารสนเทศภายนอกองค์การ คือ สารสนเทศที่ได้จากกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลจากสภาพแวดล้อมภายนอกองค์การ ซึ่งจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ
             3.1 สารสนเทศด้านผู้ขายวัสดุ คือ สารสนเทศที่ได้จากผู้ขายวัสดุ ภายในเครือข่ายด้านโซ่อุปทานขององค์การ
             3.2 สารสนเทศด้านผู้ขนส่งวัสดุ คือ สารสนเทศที่ได้จากผู้ให้บริการขนส่งวัสดุ

กระบวนการทางธุรกิจของระบบสารสนเทศ
มี 5 ระบบ ดังนี้
1. ระบบออกแบบการผลิต
           หน้าที่งานสำคัญของการผลิต คือ จะต้องมีการออกแบบการผลิตในแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนเริ่มงานด้านการวางแผนและการดำเนินการผลิต ซึ่งระบบการออกแบบการผลิต คือ ระบบที่มุ่งเน้นถึงหน้าที่ด้านการออกแบบในส่วนของผลิตภัณฑ์และระบบการผลิต โดยคำนึงถึงคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่ดี มีประสิทธิภาพ ซึ่งจำแนกระบบออกแบบการผลิตได้เป็น 2 กระบวนการ ดังนี้
1.1การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ การกำหนดรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ทั้งในส่วนของการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้ดีขึ้น และการสร้างนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายการตลาดในการดำเนินการวิจัยการตลาด
                 1.2การออกแบบระบบการผลิต ระบบการผลิตหนึ่งๆจะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สัมพันธ์กัน เช่น สภาพแวดล้อม ปัจจัยการผลิต
2. ระบบวางแผนการผลิต
อาศัยวิธีการวางแผนการผลิตและมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตช่วยสนับสนุนหน้าที่งานส่วนต่างๆ ดังนี้ 
        2.1 การวางแผนการผลิตรวม คือ การวางแผนอัตราการผลิต ปริมาณแรงงานและการจัดเก็บสินค้าคงคลัง โดยพิจารณาจากอุปสงค์หรือความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก
             2.2 การจัดตารางการผลิต เป็นการวางแผนระยะสั้นที่สอดคล้องกับแผนการผลิตรวมโดยคำนึงถึงการใช้กำลังการผลิตอย่างคุ้มค่าภายใต้ข้อจำกัดในการผลิต ซึ่งจะทำธุรกิจทราบถึงปริมาณงานผลิตในแต่ละสัปดาห์
             2.3 การวางแผนความต้องการวัสดุ คือ การจัดการวัสดุคงคลัง ที่ความต้องการวัสดุนั้นขึ้นกับความต้องการวัสดุอื่นที่มีความเกี่ยวข้อง
            2.4 การวางแผนทรัพยากรการผลิต เนื่องจากปัจจุบันมีการดำเนินการผลิตที่ซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะในส่วนการผลิตสินค้าหลายๆรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า               
3. ระบบจัดการโลจิสติกส์
ระบบจัดการโลจิสติกส์ด้านการผลิต มี 2 ส่วนงาน คือ
             3.1โลจิสติกส์ขาเข้า มักเกี่ยวข้องกับธุรกิจระหว่างองค์การ คือ องค์การผู้ซื้อวัสดุ และองค์การผู้ขายวัสดุ ซึ่ง ใช้สนับสนุกิจกรรมภายในโซ่คุณค่าขององค์การ
       3.2การจัดการสินค้าคงเหลือ คือ การกำหนดถึงปริมาณของสินค้าคงเหลือ ซึ่งถูกจัดเก็บในคลังสินค้า ซึ่งสินค้าคงเหลือนี้อาจอยู่ในลักษณะของวัสดุหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
4.ระบบดำเนินงานการผลิต
ธุรกิจได้ทำการออกแบบการผลิต วางแผนการผลิต รวมทั้งมีการจัดการโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตแล้ว ในขั้นต่อมาจะเป็นการดำเนินการผลิตสินค้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการจัดการการผลิตและดำเนินงาน ที่มุ่งเน้นถึงการผลิตตามกระบวนการผลิตและตามแผนการผลิตต่างๆในส่วนการผลิตที่วางไว้
5. ระบบควบคุมการผลิต
จะเน้นถึงการควบคุมให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้โดยใช้สารสนเทศทางการผลิตบางส่วน ระบบควบคุมการผลิตมีส่วนสำคัญ 4 ส่วน ดังนี้
        5.1การควบคุมปฏิบัติการการผลิต การผลิตภายในโรงงานมีการใช้ระบบสารสนเทศด้านการปฏิบัติการผลิตเพื่อติดตามร่องรอยการดำเนินงานการผลิตและการควบคุม
               5.2 การควบคุมคุณภาพ มีการพัฒนาระบบสารสนเทศด้านควบคุมคุณภาพเพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของวัสดุและชิ้นส่วนที่จัดหามาได้
            5.3 การควบคุมต้นทุน ในการดำเนินการผลิตจะเกิดต้นทุนการผลิตหลัก คือ ต้นทุนค่าวัสดุ ค่าแรงและค่าใช้จ่ายโรงงาน
           5.4 การบำรุงรักษา คือ การซ่อมบำรุงเครื่องจักร หรืออุปกรณ์การผลิตให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อบกพร่องในการทำงานและเป็นการรักษาความปลอดภัยในการทำงานด้วย

เทคโนโลยีทางการผลิต
    กระบวนการทางธุรกิจของระบบสารสนเทศทางการผลิตมี 10 ข้อ คือ
            1. โปรแกรมสำเร็จรูปทางการผลิต
            2. การใช้หุ่นยนต์
            3. การใช้รหัสแท่ง
            4. การใช้อินเตอร์เน็ต
            5. การออกแบบใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
            6. การผลิตใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
            7. ระบบการผลิตแบบยืดหยุ่น
            8. การผลิตแบบผสมผสานด้วยคอมพิวเตอร์
            9. ระบบบูรณาการทางการผลิต
           10. ระบบสับเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์